สวัสดีกันอีกหนึ่งวันนะคะ
จากที่อิฉันได้เล่าว่า ทางมิซซังได้อนุมัติให้ทำพิพิธภัณฑ์ได้นั้นก็มาคิดกับตัวเองว่า
เอาละซี มาถึงตอนนี้จึงได้เริ่มรู้สึกตัวว่า เออ มันเร็วเกินไปหรือเปล่าเนี่ย เรายังไม่ทันได้ตั้งตัว รวบรวมอะไรๆเป็นชิ้นเป็นอันเลย จึงต้องเริ่มต้นตั้งสติให้ดี สูดหายใจลึกๆ แล้วเริ่มเรียบเรียงขั้นตอน แนวทางดำเนินการให้เป็นขั้นเป็นตอน ต่อๆไป โดยชั้นแรกเลยก็มีการเรียกประชุมบรรดาสมาชิกผู้ร่วมลงเรือลำเดียวกันแล้ว จะโดยเต็มใจหรือไม่ก็ตาม เป็นอันว่าต้องตกบันไดพลอยโจนไปกับเราด้วยกัน หละ
สมาชิกที่ว่านี้ก็แน่นอนต้อง มี อิฉันนี่ พร้อมด้วย คุณสามี(ผู้แอบเตรียมการไว้นานแล้วตั้งแต่อิฉันปรารภว่าอยากทำพิพิธภัณฑ์ อันนี้เธอบอกเอง) ลูกสาวเรา น้องสาว 2คน น้องเขยผู้เป็นกำลังสำคัญอีกแรงหนึ่ง และที่สำคัญ มีอาจารย์ ผู้เชี่ยวชาญเรื่องของฝั่งธนบุรี โดยเฉพาะแถวๆกุฎีจีน โดยที่ทั้งสองท่านนี้ได้เคยหลวมตัวตกปากรับคำเราไว้ว่า หากเราทำพิพิธภัณฑ์เมื่อไหร่ ยินดีช่วยเต็มที่ เราจึงได้ตัวเธอทั้งสองท่านมาเป็นทั้งที่ปรึกษาและสมยอมช่วยเราทำงานด้วยความที่ที่มีใจรักทางด้านนี้อยู่แล้วเป็นทุน
ในระหว่างที่กำลังปรึกษาเกี่ยวกับทางด้านวิชาการกันอยู่ พวกออกแบบ(ก็พวกคุณสามี คุณลูกสาว คุณน้องเขย )ก็ออกแบบปรับปรุงไป พยายามทำทุกด้านไปพร้อมๆกันเท่าที่จะสามารถทำได้เพราะแอบกำหนดเวลาแล้วเสร็จไว้แล้วว่า ประมาณเดือนธันวาคม ปีนี้ละค่ะ ยังมีเรื่องสนุกๆเกี่ยวกับการปรับปรุงบ้านที่อยากเล่าให้ฟังอีก ไว้พรุ่งนี้นะคะ
—
Museum Story01
Museum Story02